ขับลุยน้ำอย่างปลอดภัย! 7 วิธีรับมือเมื่อจำเป็นต้องลุยน้ำท่วม

ในช่วงฝนตกแบบนี้ ปัญหาน้ำท่วมฉับพลันเกิดขึ้นได้แทบทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเมืองที่ระบบระบายน้ำไม่ทัน ทำให้หลายคนต้อง “ขับรถลุยน้ำ” แบบไม่มีทางเลือก แต่รู้ไหมว่า การลุยน้ำโดยไม่ระวัง อาจทำให้เครื่องยนต์พัง ระบบไฟช็อต หรือเบรกมีปัญหาได้ภายในเวลาไม่กี่นาที เพื่อให้คุณและรถคู่ใจปลอดภัยในทุกสถานการณ์ วองฮอนด้า รวบรวม 7 วิธีขับรถลุยน้ำอย่างถูกวิธี ที่เจ้าของรถทุกคนควรรู้ไว้ก่อนสาย

1. ประเมินระดับน้ำ

หลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมสูงเกินครึ่งล้อ ระดับน้ำที่สูงเกินขอบล้ออาจทำให้น้ำเข้าสู่ 

• ระบบไอดี (ท่ออากาศ) ของรถเครื่องยนต์สันดาป

• หรือท่วมถึง แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า ของรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

ซึ่งอาจสร้างความเสียหายรุนแรงและซ่อมได้ยาก

2. ปิดระบบปรับอากาศ (A/C)

ก่อนลุยน้ำควร ปิดแอร์ทันที และใช้เกียร์ต่ำ เพื่อป้องกันพัดลมหน้าเครื่องทำงาน ซึ่งอาจตีน้ำเข้าหาเครื่องยนต์ รวมถึงลดความเสี่ยงจากระบบไฟฟ้าลัดวงจรในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ควรเปิดระบบอีกครั้งเมื่อพ้นพื้นที่น้ำท่วมแล้วเท่านั้น

3. ใช้ความเร็วต่ำและคงที่

ควบคุมความเร็วให้คงที่ประมาณ 15–20 กม./ชม. และ ไม่เหยียบเบรกบ่อยหรือเร่งเครื่องแรง จะทำให้เกิด คลื่นน้ำกระแทก เข้าสู่ห้องเครื่องยนต์และใต้ท้องรถอย่างรุนแรง อาจทำให้ระบบเสียหายโดยไม่รู้ตัว

4. รักษาระยะห่าง

เว้นระยะมากกว่าปกติ เพื่อป้องกันแรงกระเพื่อมของน้ำจากรถคันอื่น และเผื่อระยะเบรก เพราะบนถนนเปียก ระบบเบรกจะทำงานได้ช้ากว่าปกติ

5. ระวังสิ่งกีดขวาง

น้ำที่ขุ่นอาจซ่อน อันตรายที่มองไม่เห็น เช่น ฝาท่อเปิด หลุมบ่อ หรือเศษวัสดุแข็ง ซึ่งอาจกระแทกใต้ท้องรถ ทำให้ อ่างน้ำมันเครื่อง ท่อไอเสีย หรือแม้แต่ แบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า EV เสียหายได้

6. ไล่น้ำในระบบเบรก

หลังพ้นจากพื้นที่น้ำท่วม ควรย้ำเบรกเบาๆ ซ้ำๆ เพื่อให้จานเบรกเกิดความร้อนและช่วยไล่น้ำออกจากระบบเบรก ช่วยให้เบรกกลับมาทำงานได้ตามปกติเร็วขึ้น

7. กรณีรถดับกลางน้ำ

ห้ามสตาร์ทรถหรือเปิดระบบเพื่อขับต่อเด็ดขาด! หากรถดับกลางน้ำหมายถึงน้ำเข้าสู่ระบบแล้ว 

• รถเครื่องยนต์สันดาป อาจเกิด Water Hammer ทำให้ลูกสูบหรือเพลาข้อเหวี่ยงแตก

• รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เสี่ยงระบบไฟฟ้าแรงสูงลัดวงจรทันที

ทางที่ถูกต้องคือ อย่าสตาร์ทรถซ้ำ และเรียกใช้บริการ รถยกหรือรถสไลด์เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่ม

สิ่งที่ต้องทำทันทีหลังลุยน้ำเสร็จสิ้น

• นำรถเข้าศูนย์บริการ : แนะนำให้นำรถเข้าตรวจสอบสภาพทันที ไม่ว่ารถจะดูเป็นปกติก็ตาม เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ 

  • น้ำเข้าในน้ำมันเครื่อง / น้ำมันเกียร์ รถเครื่องยนต์สันดาป

  • ความชื้นในปลั๊กไฟ หรือชุดควบคุมระบบไฟแรงสูง รถยนต์ไฟฟ้า (EV)

• ตรวจสอบใต้ท้องรถ : หากลุยน้ำที่มีดินโคลน ควรล้างใต้ท้องรถโดยเร็ว เพื่อป้องกันคราบโคลนเกาะจนเกิดสนิมและการกัดกร่อนในระยะยาว

การขับรถลุยน้ำ ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะความเสียหายอาจไม่เกิดขึ้นทันที แต่จะค่อยๆ ส่งผลในระยะยาว หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด และนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กความพร้อมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ได้ที่ ศูนย์บริการวองฮอนด้า  ทั้ง 4 สาขา 1) สาขาบางบัว-ศรีปทุม 2) สาขาพญาไท 3) สาขารังสิต 4) สาขาสุขาภิบาล5  เพื่อป้องกันปัญหาแฝง ช่วยให้รถของคุณปลอดภัยจากปัญหาที่มองไม่เห็นได้มากขึ้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official : @wonghondagroup