top of page

ไฟเตือนแบบไหน อันตราย! มากที่สุด

ree

หลายคนอาจเคยตกใจเมื่อเห็น  ไฟสัญญาณเตือนบนหน้าปัดรถยนต์  สว่างขึ้นมาแล้วไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไร บางดวงเป็นเพียงการเตือนเบื้องต้น แต่บางดวงบ่งบอกถึงความผิดปกติร้ายแรงที่อาจทำให้รถเสียหายหรือเป็นอันตรายได้ หากเจอไฟเตือนบนหน้าปัดขึ้นมา สิ่งแรกที่ควรทำคือ  อย่ามองข้าม! การทำความเข้าใจความหมายของไฟสัญญาณเตือนบนหน้าปัดรถยนต์เหล่านี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถรับมือได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย



โดยทั่วไปแล้ว สีของไฟเตือนจะมีความหมายดังนี้

🔴 ไฟสีแดง = อันตราย!  ต้องหยุดขับทันที

  • หมายถึง  : ระบบสำคัญผิดปกติ ถ้ายังฝืนขับอาจทำให้รถเสียหายรุนแรงหรือเกิดอุบัติเหตุได้

  • สิ่งที่ควรทำ :  หยุดรถในที่ปลอดภัย เปิดไฟฉุกเฉิน และเรียกความช่วยเหลือ

  • วิธีแก้ไข : ติดต่อศูนย์บริการ/ช่างผู้เชี่ยวชาญทันที

🟠 ไฟสีส้มหรือสีเหลือง  =  เตือน!  ยังพอขับต่อได้

  • หมายถึง : มีปัญหาที่ต้องแก้ไขเร็วๆ นี้ แต่ยังสามารถขับต่อไปศูนย์ได้

  • สิ่งที่ควรทำ : ลดการใช้งานหนัก ขับด้วยความระมัดระวัง

  • วิธีแก้ไข : เข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบโดยเร็ว

🟢 ไฟสีเขียวหรือมีฟ้า = สถานะการทำงานปกติ

  • หมายถึง  : ไม่ใช่ไฟเตือน แต่เป็นไฟบอกสถานะ เช่น ไฟเลี้ยว, ไฟสูง, ระบบ Cruise Control ทำงาน, โหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode)

  • สิ่งที่ควรทำ  : ไม่ต้องกังวล เพียงแค่รับรู้ว่าระบบนั้นกำลังทำงานอยู่



สัญลักษณ์ไฟเตือนที่พบบ่อย

🔴 ไฟเตือนสีแดง (อันตรายร้ายแรง! ควรหยุดรถทันที)

1. สัญลักษณ์ รูปถ้วยน้ำมันเครื่อง (มีหยด)

ree

ปัญหา :  แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำผิดปกติ อาจเกิดจากการรั่วซึม หรือระดับน้ำมันเครื่องต่ำมาก

วิธีรับมือ : ให้รีบจอดรถทันทีในที่ปลอดภัย และดับเครื่อง หากฝืนขับต่ออาจทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายรุนแรง

ขับต่อได้หรือไม่ : ห้ามขับต่อ


2. สัญลักษณ์ รูปเทอร์โมมิเตอร์ลอยบนน้ำ

ree

ปัญหา : ความร้อนของเครื่องยนต์สูงเกินไป (Overheat)

วิธีรับมือ : ให้รีบจอดรถในที่ปลอดภัยและดับเครื่องทันที รอให้เครื่องเย็นลง ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยังร้อนอยู่เด็ดขาด

ขับต่อได้หรือไม่ :  ห้ามขับต่อ


3. สัญลักษณ์ รูปแบตเตอรี่

ree

ปัญหา :  ระบบชาร์จไฟมีปัญหา เช่น ไดชาร์จเสียหรือสายไฟหลวม

วิธีรับมือ :  แบตเตอรี่อาจหมดลงในไม่ช้า ทำให้รถดับและสตาร์ทไม่ติด ควรขับไปหาอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด หรือโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน

ขับต่อได้หรือไม่ : ไม่ควรขับต่อหากไม่จำเป็นอย่างยิ่ง


4. สัญลักษณ์ รูปคนคาดเข็มขัดนิรภัย

ree

ปัญหา : แจ้งเตือนว่าผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย

วิธีรับมือ : ให้คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย สัญลักษณ์จะหายไป

ขับต่อได้หรือไม่ : ยังขับได้


5. สัญลักษณ์ รูปคนนั่งและมีถุงลมด้านหน้า

ree

ปัญหา :  ระบบถุงลมนิรภัย มีความผิดปกติ

วิธีรับมือ : แม้จะยังขับต่อได้ แต่ถุงลมนิรภัยอาจไม่ทำงานในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ควรรีบนำรถเข้าตรวจสอบโดยเร็วที่สุด

ขับต่อได้หรือไม่ :  ยังขับได้ แต่ควรระมัดระวัง


6. สัญลักษณ์ รูปวงกลม มีเครื่องหมายตกใจ

ree

ปัญหา :  ระบบเบรกมือยังทำงานอยู่ หรือมีปัญหาในระบบเบรก เช่น ระดับน้ำมันเบรกต่ำผิดปกติ

วิธีรับมือ : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปลดเบรกมือแล้ว หากยังขึ้นอยู่ให้จอดรถทันทีและตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก หากไม่แน่ใจให้โทรเรียกช่าง

ขับต่อได้หรือไม่ :  ไม่ควรขับต่อ


7. สัญลักษณ์ รูปพวงมาลัย มีเครื่องหมายตกใจ

ree

ปัญหา :  ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS) มีปัญหา

วิธีรับมือ :  พวงมาลัยจะหนักขึ้นมาก ควรขับด้วยความระมัดระวังและนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการโดยเร็วที่สุด

ขับต่อได้หรือไม่ :  ยังขับได้ แต่จะควบคุมยากขึ้น 


8. สัญลักษณ์ รูปรถยนต์กับเครื่องหมายตกใจ

ree

ปัญหา :  ปัญหาร้ายแรงในระบบแบตเตอรี่แรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงของรถยนต์ไฮบริดหรือไฟฟ้า

วิธีรับมือ :  ให้รีบหาที่จอดที่ปลอดภัยและดับเครื่องทันที ห้ามขับรถต่อไปอย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อระบบแบตเตอรี่หรือเกิดอันตรายได้

ขับต่อได้หรือไม่ :  ห้ามขับต่อ


9. สัญลักษณ์ รูปประตูรถเปิด

ree

ปัญหา : ประตูรถยังปิดไม่สนิท

วิธีรับมือ :  จอดรถและตรวจสอบให้แน่ใจว่าประตูทุกบานปิดสนิทดีแล้ว

ขับต่อได้หรือไม่ : ยังขับได้ แต่ควรแก้ไขให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย


10. สัญลักษณ์ รูปฝากระโปรงรถเปิด

ree

ปัญหา : ฝากระโปรงหน้าหรือฝาท้ายรถปิดไม่สนิท

วิธีรับมือ : จอดรถและตรวจสอบว่าปิดฝากระโปรงให้สนิทดีแล้ว

ขับต่อได้หรือไม่ : ไม่ควรขับต่อ ควรแก้ไขให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย



🟠 ไฟเตือนสีเหลือง/ส้ม (ยังใช้งานรถได้ แจ้งเตือนความผิดปกติ)

1. สัญลักษณ์ รูปเครื่องยนต์

ree

ปัญหา : มีความผิดปกติในระบบควบคุมเครื่องยนต์

วิธีรับมือ :  แม้จะยังขับได้ปกติ แต่ควรรีบนำรถไปให้ช่างตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ ห้ามละเลย เพราะอาจส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ในระยะยาว

ขับต่อได้หรือไม่ : ยังขับได้


2. สัญลักษณ์ รูปยางรถยนต์ มีเครื่องหมายตกใจ

ree

ปัญหา : แรงดันลมยางต่ำกว่าปกติ (TPMS)

วิธีรับมือ : ให้ตรวจเช็คแรงดันลมยางทุกเส้น และเติมลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ควรรีบแก้ไข เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ขับต่อได้หรือไม่ :  ยังขับได้ แต่ควรแก้ไขโดยเร็ว


3. สัญลักษณ์ รูป ABS 

ree

ปัญหา :  ระบบเบรก ABS (Anti-lock Brake System) มีความผิดปกติ

วิธีรับมือ : ระบบเบรกปกติยังคงทำงานได้ แต่ระบบป้องกันล้อล็อกจะไม่ทำงาน ควรขับด้วยความระมัดระวัง และรีบนำรถไปให้ช่างตรวจสอบ

ขับต่อได้หรือไม่ :  ยังขับได้


4. สัญลักษณ์ รูปรถยนต์กำลังลื่นไถล

ree

ปัญหา : ระบบควบคุมการทรงตัวมีปัญหาหรือถูกปิดการทำงาน

วิธีรับมือ : ควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่และนำรถเข้าตรวจสอบระบบโดยเร็ว

ขับต่อได้หรือไม่ :  ยังขับได้ แต่ควรระวังเป็นพิเศษ


5.  สัญลักษณ์ รูปถังน้ำมัน

ree

ปัญหา :  ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำมาก

วิธีรับมือ : ควรเติมน้ำมันโดยเร็วที่สุด หากปล่อยให้น้ำมันหมดอาจทำให้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหาย

ขับต่อได้หรือไม่ : ยังขับได้ แต่ควรเติมน้ำมันโดยด่วน


6. สัญลักษณ์ รูปวงกลม มีเครื่องหมายตกใจ

ree

ปัญหา :  มีความผิดปกติในระบบที่เกี่ยวข้องกับเบรก เช่น ระบบกระจายแรงเบรกไฟฟ้า (EBD) หรือระบบเบรกอัตโนมัติอื่นๆ

วิธีรับมือ :  ระบบเบรกหลักยังคงทำงานได้ แต่ระบบช่วยเหลืออาจไม่ทำงานตามปกติ ควรขับด้วยความระมัดระวัง และนำรถเข้าตรวจสอบโดยเร็วที่สุด

ขับต่อได้หรือไม่ :  ยังพอขับต่อได้ แต่ไม่ควรขับเป็นระยะทางไกลๆ


7. สัญลักษณ์ รูปสี่เหลี่ยมคล้ายกระจกหน้า มีน้ำอยู่ข้างใน

ree

ปัญหา :  ระดับน้ำล้างกระจกอยู่ในระดับต่ำ

วิธีรับมือ :  เติมน้ำยาหรือน้ำสำหรับฉีดกระจกให้เรียบร้อย

ขับต่อได้หรือไม่ :  ยังขับได้


8. สัญลักษณ์รูป เต่า

ree

ปัญหา :  ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของรถยนต์ไฮบริดหรือไฟฟ้ามีปัญหา ทำให้รถจำกัดกำลังการทำงานและลดความเร็วลงเพื่อปกป้องระบบ

วิธีรับมือ : ควรพักเครื่องให้เย็นลงก่อนใช้งานต่อ เพราะหากฝืนขับต่อไปอาจทำให้ระบบขับเคลื่อนเสียหายรุนแรง

ขับต่อได้หรือไม่ : ไม่ควรขับต่อ (รถจะขับเคลื่อนได้ช้ามากหรือหยุดนิ่ง)


9. สัญลักษณ์รูป ประแจหรือรูปรถยนต์ที่มีประแจ

ree

ปัญหา :  ถึงกำหนดเข้าศูนย์บริการตามระยะทาง

วิธีรับมือ :  ควรนำรถเข้าตรวจสอบตามระยะทางที่กำหนด เพื่อการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม

ขับต่อได้หรือไม่ : ยังขับได้


10. สัญลักษณ์รูป ตัวอักษร i

ree

ปัญหา :  มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าจอแผงหน้าปัด ซึ่งอาจเป็นข้อความแจ้งเตือนทั่วไปหรือการแจ้งข้อมูลระบบต่างๆ

วิธีรับมือ :  ตรวจสอบหน้าจอแสดงข้อมูลของรถยนต์เพื่ออ่านข้อความแจ้งเตือนที่ขึ้นมา ซึ่งอาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

ขับต่อได้หรือไม่ : ยังขับได้ แต่ควรตรวจสอบข้อความที่แจ้งเตือนเพื่อดูว่ามีความรุนแรงหรือไม่


หมายเหตุ : ศึกษาคู่มือรถของคุณไว้เสมอ เพราะไฟเตือนในรถแต่ละรุ่นอาจมีสัญลักษณ์ที่ต่างกันเล็กน้อย โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ที่มีระบบอัจฉริยะเพิ่มขึ้น



เคล็ดลับการรับมือไฟเตือนบนหน้าปัด

  1. ดูว่าติดค้างหรือกระพริบ

    • ไฟกระพริบ  = ปัญหาร้ายแรง  ควรหยุดรถทันที

    • ไฟติดค้าง  = ระบบผิดปกติ แต่ยังพอขับไปศูนย์บริการได้อย่างระมัดระวัง

  2. เปิดคู่มือประจำรถ  คู่มือจะมีรายละเอียดสัญลักษณ์ทุกดวง ช่วยให้คุณเข้าใจความหมายได้ถูกต้อง

  3. ตรวจสอบเบื้องต้น ลองเช็กสิ่งที่ทำได้เอง เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำยาหล่อเย็น หรือแรงดันลมยาง

  4. หลักการจำง่ายๆ ตามสีไฟ

    • ไฟสีแดง  = อันตราย ต้องหยุดรถทันทีและติดต่อศูนย์บริการ

    • ไฟสีเหลือง/ส้ม  = เตือน ยังขับต่อได้ แต่ควรรีบไปตรวจเช็ก

    • ไฟสีเขียว/ฟ้า  = แค่แสดงการทำงานของระบบ ไม่ใช่ไฟเตือน





อย่างไรก็ตาม ไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ไม่ควรมองข้าม เพราะนั่นคือสัญญาณที่รถกำลังบอกว่ามีสิ่งผิดปกติซ่อนอยู่ บางปัญหาอาจดูเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้อาจลุกลามจนเกิดความเสียหายรุนแรง และเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ หากเจอไฟเตือนแล้วไม่มั่นใจ แนะนำให้นำรถเข้าตรวจเช็กกับ ศูนย์บริการวองฮอนด้า การตรวจเช็กที่ศูนย์บริการคือทางเลือกที่มั่นใจได้ ทั้ง แม่นยำจากเครื่องมือเฉพาะ ปลอดภัยด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ และยังช่วยให้คุณ ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพราะตรวจพบปัญหาก่อนลุกลาม เราพร้อมดูแลและแก้ไขปัญหาทุกสัญญาณเตือนบนหน้าปัด ระบบเครื่องยนต์ ไฟฟ้า และระบบความปลอดภัยต่างๆ ให้คุณมั่นใจได้ว่ารถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานทุกครั้งที่ออกเดินทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official : @wonghondagroup 

ความคิดเห็น


bottom of page