6 จุดเสี่ยงรถพังกลางฝน ถ้าไม่รีบเช็กก่อนขับ!
- wong honda
- 14 ก.ค.
- ยาว 2 นาที

ฤดูฝน เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากกว่าปกติ ทั้งจาก ถนนลื่น ฝนตกหนัก น้ำท่วมขัง และ ทัศนวิสัยที่แย่ลง แม้คุณจะขับรถดีแค่ไหน แต่ถ้ารถ ไม่พร้อม ก็อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ง่ายๆ หลายครั้งที่เรา “ชิน” กับอาการเล็กๆ เช่น ยางสึก ผ้าเบรกบาง ที่ปัดน้ำฝนฝืด สิ่งเหล่านี้อาจดูไม่อันตราย แต่ในวันที่ฝนตกหนัก มันคือ “จุดเสี่ยง” ที่ไม่ควรมองข้าม การตรวจเช็กและดูแลรถให้พร้อม โดยเฉพาะใน 6 จุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวกสบาย แต่คือ “การป้องกัน” ที่ดีที่สุด เพื่อให้คุณและคนที่คุณรัก ขับขี่ได้อย่าง มั่นใจ ปลอดภัย และไร้กังวล ในทุกสภาพอากาศ
1. ยางรถยนต์ - สิ่งแรกที่สัมผัสถนนโดยตรง

ยางรถยนต์ คือ ชิ้นส่วนเดียวที่สัมผัสพื้นถนนโดยตรง มีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักของรถ เกาะถนน และช่วยควบคุมทิศทาง หากยางไม่มีประสิทธิภาพจะเพิ่มความเสี่ยงในการลื่นไถล โดยเฉพาะในวันที่ถนนเปียก
สิ่งที่ควรตรวจเช็ก :
ดอกยาง ควรลึกไม่น้อยกว่า 3 มม. เพื่อรีดน้ำและเกาะถนนได้ดี
สภาพยาง สังเกตว่ามีรอยแตก บวม หรือแข็งกรอบหรือไม่
แรงดันลมยาง วัดด้วยเกจวัดลม และเติมให้ได้ตามที่ระบุในคู่มือรถ
การดูแล/แก้ปัญหา :
หากยางเก่าเกิน 4-5 ปี หรือดอกยางบาง ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
ตรวจเช็กลมยางอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง และเติมลมตามคำแนะนำของผู้ผลิต
เลือกใช้ยางที่มีคุณสมบัติเฉพาะในการรีดน้ำหรือยางที่เหมาะกับสภาพฝน
2. เบรก - ระบบชะลอและหยุดรถอย่างปลอดภัย

ระบบเบรก ทำหน้าที่หยุดหรือชะลอความเร็วของรถ ซึ่งในสภาพถนนลื่นหรือเปียก การเบรกอาจมีประสิทธิภาพน้อยลง การตรวจสอบจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน
สิ่งที่ควรตรวจเช็ก :
ผ้าเบรก ว่าหนาพอหรือไม่ (ขั้นต่ำไม่ควรต่ำกว่า 3 มม.)
จานเบรก ตรวจดูรอยสึกหรือรอยคด
น้ำมันเบรก ตรวจระดับ และดูว่ายังใส ไม่ขุ่น
การดูแล/แก้ปัญหา :
หากมีเสียงดังผิดปกติขณะเบรก ควรเข้าศูนย์บริการทันที
เปลี่ยนน้ำมันเบรกทุก 2 ปี หรือทุก 40,000 กม.
หลีกเลี่ยงการเบรกกระทันหันขณะฝนตก ใช้เบรกอย่างนุ่มนวล
3. ที่ปัดน้ำฝน - ช่วยให้มองเห็นทางได้ชัดเจน

ที่ปัดน้ำฝน มีหน้าที่เคลียร์น้ำฝนที่เกาะกระจกหน้า เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นถนนได้อย่างชัดเจน หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ อาจทำให้ทัศนวิสัยแย่ลง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
สิ่งที่ควรตรวจเช็ก :
ใบปัดน้ำฝน ควรนุ่ม ไม่แข็งกรอบ ไม่มีรอยแตก
การทำงาน ต้องปัดน้ำได้หมดจด ไม่มีเสียงดังหรือทิ้งคราบ
น้ำยาฉีดกระจก ต้องมีเพียงพอ และหัวฉีดไม่อุดตัน
การดูแล/แก้ปัญหา :
เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนทุก 6-12 เดือน
เติมน้ำยาฉีดกระจกสูตรเฉพาะ ไม่ควรใช้น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว
ล้างคราบสกปรกที่กระจกหน้าเป็นประจำ
4. ระบบไฟส่องสว่าง - เพื่อความปลอดภัยในการมองเห็น

ระบบไฟหน้า-ท้าย มีหน้าที่สำคัญในการช่วยให้มองเห็นเส้นทางขณะขับ และทำให้รถของคุณมองเห็นได้จากผู้อื่น โดยเฉพาะเมื่อฝนตกหนักหรือในช่วงทัศนวิสัยต่ำ
สิ่งที่ควรตรวจเช็ก :
ไฟหน้า/ท้าย/เลี้ยว/เบรก ทุกดวงต้องสว่างและทำงานปกติ
ไฟตัดหมอก (ถ้ามี) ใช้ในพื้นที่ที่มีฝนตกหนักหรือหมอกหนา
โคมไฟ ไม่ควรขุ่นมัวหรือมีฝ้า
การดูแล/แก้ปัญหา :
เปลี่ยนหลอดไฟที่ขาดหรือสว่างน้อยทันที
เช็ดโคมไฟให้สะอาดอยู่เสมอ หากขุ่นให้ขัดหรือนำไปเปลี่ยน
เปิดไฟหน้าแม้เป็นกลางวันหากฝนตก เพื่อเพิ่มการมองเห็น
5. ช่วงล่าง / โช้คอัพ - ควบคุมการทรงตัว

ช่วงล่าง คือ ระบบที่รองรับแรงกระแทกจากพื้นถนน และควบคุมการทรงตัวของรถ ซึ่งรวมถึง โช้คอัพ ที่ทำหน้าที่ซับแรงกระแทก หากช่วงล่างมีปัญหา รถอาจควบคุมยาก เสี่ยงต่อการเสียหลักเมื่อเจอหลุม น้ำขัง หรือถนนไม่เรียบ
สิ่งที่ควรตรวจเช็ก :
โช้คอัพ ดูว่ามีรอยรั่วของน้ำมันหรือไม่
เสียงช่วงล่าง ถ้ามีเสียงกุกกัก หรือกระแทกแรงผิดปกติ ควรให้ช่างเช็ก
อาการรถ เช่น โยกเยก เบรกแล้วหน้าทิ่ม หรือเลี้ยวแล้วส่าย
การดูแล/แก้ปัญหา :
ตรวจเช็กช่วงล่างทุก 10,000 กม. หรือหากรู้สึกผิดปกติ
หากขับรถผ่านน้ำท่วมขังบ่อย ควรตรวจช่วงล่างเป็นพิเศษ
เปลี่ยนโช้คอัพเมื่อพบรอยรั่วหรือแรงหน่วงลดลง
6. ระบบไล่ฝ้า - ทัศนวิสัยชัดเจน

ในช่วงฝนตกหรืออากาศชื้น กระจกหน้าหรือกระจกหลังมักเกิดฝ้า ทำให้มองเห็นทางได้ไม่ชัดเจน ระบบไล่ฝ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย
หมายเหตุ : รถบางรุ่นอาจไม่มีระบบไล่ฝ้าหลัง (Rear Defogger) โดยเฉพาะรุ่นเล็กหรือรุ่นเก่า ควรตรวจสอบอุปกรณ์ให้แน่ใจก่อนใช้งาน
สิ่งที่ควรตรวจเช็ก :
ระบบไล่ฝ้ากระจกหน้า (ผ่านระบบแอร์) ใช้งานได้ปกติ
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง (เส้นลวดความร้อน) เปิดแล้วไล่ฝ้าได้เร็ว
สังเกตไฟแสดงสถานะ และทดลองใช้งานจริง
การดูแล/แก้ปัญหา :
ทดลองเปิดระบบไล่ฝ้าล่วงหน้า เพื่อให้ใช้งานได้ทันทีเมื่อจำเป็น
ถ้าระบบไล่ฝ้าหลังไม่ทำงาน อาจเกิดจากฟิวส์ขาดหรือเส้นลวดขาด
หมั่นเช็กความสะอาดของกระจก ลดการเกิดฝ้าได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม หากรถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ก็ช่วยลดความเสี่ยงจาก ถนนลื่น ทัศนวิสัยแย่ หรือเหตุฉุกเฉินต่างๆ ได้มาก การตรวจเช็ก 6 จุดสำคัญเป็นประจำ เพื่อความปลอดภัย และความมั่นใจในทุกเส้นทางเพราะ ความพร้อมของรถ คือ ความปลอดภัยของคนในรถทุกคน ทั้งนี้ วองฮอนด้า ขอแนะนำให้ลูกค้าเข้ารับบริการตรวจเช็กรถช่วงหน้าฝนกับช่างผู้เชี่ยวชาญ หรือพิจารณา เปลี่ยนยาง ที่หมดสภาพก่อนที่จะสายเกินไป พร้อมโปรโมชันส่วนลดพิเศษสำหรับยางใหม่ และบริการสลับยาง + ตั้งศูนย์ล้อในราคาพิเศษ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วองฮอนด้า ทั้ง 4 สาขา 1) สาขาบางบัว-ศรีปทุม 2) สาขาพญาไท 3) สาขารังสิต 4) สาขาสุขาภิบาล5 หรือ Line Official : @wonghondagroup อย่าปล่อยให้ ความเคยชิน กับสภาพรถที่ใช้ทุกวัน อาจทำให้คุณมองข้าม “จุดเสี่ยง” ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ




ความคิดเห็น