เช็กรถคู่ใจหลังสงกรานต์ เติมเต็มความพร้อมก่อนลุยต่อ

เทศกาลแห่งความสุขอย่างสงกรานต์ผ่านพ้นไปแล้ว หลายคนสนุกกับการเดินทางและกิจกรรมต่างๆ แต่สำหรับรถยนต์คู่ใจของเราต้องเผชิญกับสภาพการใช้งานที่หนักหน่วง ทั้งการลุยน้ำ เจอโคลน หรือคราบแป้งที่ติดแน่นตามตัวถัง ซอกมุม หรือแม้แต่ภายในห้องโดยสาร หากละเลยไม่รีบทำความสะอาด อาจก่อให้เกิดคราบฝังลึก สนิม หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันกลับมาใส่ใจดูแลรถให้สะอาดสดใสอีกครั้ง วองฮอนด้า ขอแนะนำขั้นตอนดูแลรถหลังผ่านเทศกาลสงกรานต์ ที่ทั้งง่ายและช่วยยืดอายุการใช้งานของรถคุณ

6 วิธีดูแลรถยนต์หลังสงกรานต์ ให้กลับมาฟิตเหมือนเดิม

1. ล้างคราบแป้งและน้ำสกปรกให้หมดจด

คราบแป้งที่ผสมกับน้ำ รวมถึงแป้งสีหรือดินสอพองที่มักใช้กันในช่วงสงกรานต์ แม้จะดูเหมือนไม่อันตราย แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 1-2 วันโดยไม่ล้างออก อาจทำปฏิกิริยากับความร้อนจากแสงแดด หรือความชื้นในอากาศ จนกลายเป็นคราบฝังแน่นที่ยากต่อการทำความสะอาด นอกจากนี้ ยังเสี่ยงทำให้ผิวสีรถเป็นรอยด่าง หมอง หรือหลุดร่อนในบางจุดได้ โดยเฉพาะบริเวณที่โดนน้ำและแป้งซ้ำๆ เช่น ฝากระโปรงหน้า บังโคลน และแนวประตู

ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำหลังสงกรานต์คือ "ล้างรถให้สะอาดหมดจด" โดยเน้นบริเวณที่สัมผัสกับแป้งและน้ำโดยตรง รวมถึงใต้ท้องรถและซุ้มล้อ ซึ่งเป็นจุดที่มักสะสมคราบสกปรก ควรเริ่มด้วยการใช้น้ำสะอาดฉีดล้างคราบเบื้องต้นก่อน แล้วใช้แชมพูล้างรถโดยเฉพาะคู่กับฟองน้ำนุ่มๆ เช็ดทำความสะอาดให้ทั่วทั้งคัน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคราบใดหลงเหลืออยู่

2. ทำความสะอาดภายใน ลดกลิ่นอับ

ความชื้นจากน้ำสงกรานต์อาจแทรกซึมเข้าสู่ภายในรถโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดกลิ่นอับ หรือสะสมเชื้อราได้ นำพรมปูพื้นออกมาทำความสะอาด ซักหรือดูดฝุ่นให้เรียบร้อย เช็ดเบาะ คอนโซล และแผงประตูด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ หากมีกลิ่นอับ ลองใช้ถ่านไม้ไผ่ช่วยดูดซับกลิ่นหรือใช้สเปรย์ปรับอากาศสำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ

3. ตรวจสอบสีรถและเคลือบสี เพิ่มการปกป้อง

หลังจากล้างรถสะอาดแล้ว ลองสังเกตดูว่าสีรถยังคงสดใสเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะแป้งบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ทำปฏิกิริยากับสีรถ หรือคราบสกปรกที่แห้งติดแน่นอาจทำให้ผิวสีหมองลงได้ หากพบว่าสีรถดูหม่น หรือยังมีคราบฝังแน่นที่ล้างไม่ออกหมด แนะนำให้ "เคลือบสีรถ" เพื่อฟื้นฟูความเงางาม พร้อมสร้างชั้นฟิล์มบางๆ ที่ช่วยปกป้องสีรถจากสิ่งสกปรกในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น น้ำ คราบแป้ง หรือแสงแดด

นอกจากนี้ หากคุณวางแผนจะขับรถลุยสนุกในช่วงสงกรานต์ การเคลือบสีรถล่วงหน้าประมาณ 1-2 อาทิตย์ก่อนใช้งาน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากคราบแป้งและน้ำที่อาจเกาะติดบนผิวสีโดยตรง ช่วยให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นหลังจบทริป และยังคงความเงางามของรถไว้ได้อย่างยาวนาน

 4. ตรวจเช็กระบบไฟและเซ็นเซอร์

การโดนน้ำในปริมาณมาก อาจส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ ในรถยนต์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรก ยังคงทำงานเป็นปกติ สตาร์ทเครื่องยนต์ฟังเสียงว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ หากมีสัญญาณไฟเตือนบนหน้าปัด หรือรู้สึกว่าเครื่องยนต์ทำงานไม่ราบรื่น ควรรีบนำรถไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ

5. ตรวจเช็กเครื่องยนต์และช่วงล่าง

ห้องเครื่องยนต์เป็นอีกจุดสำคัญที่ควรตรวจสอบ ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก และน้ำหล่อเย็นว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมและไม่มีคราบสกปรกที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้แรงดันน้ำที่สูงในการล้างห้องเครื่อง เพราะอาจทำให้น้ำซึมเข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ตรวจเช็กช่วงล่างและเบรก ว่ามีเศษหินหรือโคลนติดอยู่หรือไม่ ควรฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาดล้อและซุ้มล้อ เพราะอาจมีคราบโคลนหรือเศษดินสะสม

6. ตรวจสอบยางและระบบเบรก

การขับรถลุยน้ำ หรือการใช้งานรถอย่างหนักในช่วงเทศกาล อาจส่งผลต่อสภาพยางและระบบเบรก ตรวจสอบแรงดันลมยางให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด สังเกตสภาพดอกยางว่ายังมีความลึกเพียงพอหรือไม่ หากดอกยางสึกมาก อาจทำให้การยึดเกาะถนนลดลง ตรวจสอบการทำงานของเบรกว่ายังตอบสนองดีหรือไม่ มีเสียงดังผิดปกติขณะเบรกหรือไม่ หากพบความผิดปกติ ควรรีบนำรถไปตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารถยนต์คู่ใจของคุณจะกลับมาพร้อมลุยทุกสถานการณ์หลังผ่านศึกสงกรานต์ ขอแนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อรับการตรวจเช็คอย่างละเอียด พิเศษ! หลังสงกรานต์นี้ วองฮอนด้า มีโปรโมชันตรวจเช็กสภาพรถฟรี 25 รายการ ให้คุณได้นำรถเข้ามาตรวจเช็กสภาพอย่างละเอียด ครบถ้วน โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์บริการมาตรฐานฮอนด้า พร้อมดูแลรถยนต์ของคุณอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกการขับขี่ อย่ารอช้า รีบนำรถคู่ใจของคุณมาให้เราดูแล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  Line Official : @wonghondagroup